เขียนโดย แพทย์หญิง สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ
#จะทราบได้อย่างไรว่าลูกขาโก่ง
"ลูกอายุ 6 เดือนกว่า จะประคองให้เขาเดิน ขาจะโก่งหรือไม่ และตอนอุ้มลูก แม่มักจะช้อนใต้วงแขนทั้งสองข้างแล้วยกขึ้น ไม่ได้ประคองตัวลูกไว้ เหมาะสมหรือไม่คะ"
เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ที่พบลักษณะขาโก่ง (bowleg) ส่วนใหญ่เป็นภาวะปกติ ไม่ต้องการการรักษา มีเพียงร้อยละ 1 เท่านั้นที่ผิดปกติเนื่องจากเป็นโรคกระดูก เช่น ขาดวิตะมินซี วิตะมินดี หรือเป็นโรคพันธุกรรมที่พบได้ยาก ซึ่งหากเป็นความผิดปกติจริง เด็กต้องมีอาการผิดปกติของแขน หรือ กระดูกส่วนอื่นๆของร่างกายด้วย หรือ เป็นการโก่งที่มีการบิดของเท้าชี้เข้าด้านใน (toe in) หรือ พบขาโก่งร่วมกับตัวเตี้ยผิดปกติ ความผิดปกติเหล่านี้ ต้องรักษาโดยวิธีผ่าตัดแก้ไขรูปทรง หรือ การตัดรองเท้าพิเศษโดยศัลยแพทย์โรคกระดูกเฉพาะทางสำหรับเด็ก
ภาวะโก่งแบบปกติที่พบในเด็กแรกเกิดทุกคน เกิดจากการที่เขาอยู่ในท้องแม่เป็นที่แคบๆ จึงต้องงอแขนงอขาให้มากที่สุด ทำให้กล้ามเนื้อบางมัด เส้นเอ็นบางเส้นตึงมากกว่าอีกด้านหนึ่ง ลักษณะของกระดูกจึงไม่ตรง แต่เมื่อคลอดออกมาแล้ว แขนขาจะเหยียดออกมากขึ้น กระดูกจะดูตรงมากขึ้นเองเมื่ออายุ 2 ขวบ หากบางคนยังอาจดูโค้งเหมือนโก่งนิดๆ จนโต อาจพบได้ในครอบครัวเดียวกัน เป็นลักษณะกรรมพันธุ์ ไม่ต้องรักษาเนื่องจากไม่ส่งผลทำให้การเดิน การวิ่งผิดปกติ
วิธีตรวจดูว่าขาโก่งมากผิดปกติหรือไม่ ทำโดยจับขาให้เหยียดตรง โดยให้ตาตุ่มด้านในอยู่ชิดกันมากที่สุด แล้วสังเกตว่าด้านในของข้อเข่าอยู่ห่างกันกี่ซม. ปกติจะไม่เกิน 5 ซม. หากไม่แน่ใจควรปรึกษากุมารแพทย์ หรือ ศัลยแพทย์โรคกระดูกเฉพาะทางสำหรับเด็ก
ความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับภาวะขาโก่ง
* การดัดขาหลังอาบน้ำจะช่วยให้ขาตรงมากขึ้น ไม่จริง และไม่ควรทำ เพราะอาจทำให้ลูกเจ็บ
* การใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปจะทำให้ขาโก่งมากขึ้น ไม่จริง ที่จริงแล้ว ยังใช้เป็นการรักษาภาวะข้อสะโพกเคลื่อนได้ด้วย
* การอุ้มเข้าสะเอวจะทำให้ขาโก่งมากขึ้น ไม่จริง และเช่นเดียวกับการใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป หมอแนะนำให้ทำเพื่อเป็นการรักษาภาวะข้อสะโพกเคลื่อน
การอุ้มลูกโดยการช้อนใต้วงแขนลูกทั้งสองข้างแล้วยกขึ้นมา เป็นการอุ้มที่ถูกต้องแล้วค่ะ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ท่าที่อันตรายคือการจับส่วนอื่นๆของแขน เพราะอาจทำให้ข้อศอก หรือ ข้อไหล่เคลื่อนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเป็นการจับเพียงแขนเดียว
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น